บล. บียอนด์ จับมือ ไทย สมายล์ บัส แถลงข่าวในงาน “คนดังนั่งเคลียร์ เพลียข่าวหนี้สูญ” ยันฐานะการเงินมั่นคงสูงกว่าเกณฑ์ พร้อมเผยมุมมองใหม่สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน เดินหน้าขยายธุรกิจเต็มรูปแบบตอบโจทย์คนรุ่นใหม่

บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) (BYD) ร่วมกับ บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด (TSB) จัดงานแถลงข่าว “คนดังนั่งเคลียร์ เพลียข่าวหนี้สูญ” เพื่อชี้แจงข้อสงสัยที่เกิดขึ้นในสาธารณชน พร้อมเปิดเผยทิศทางการดำเนินธุรกิจในอนาคตของทั้งสององค์กร โดยเน้นย้ำจุดยืนด้านความโปร่งใส การพัฒนาอย่างยั่งยืน และการสร้างโอกาสใหม่ในระบบเศรษฐกิจไทย

นางสาวออมสิน ศิริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) (BYD) ได้เล่าความเป็นมาของการร่วมทุนใน บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด (TSB) และชี้แจงประเด็นข้อสงสัยที่เกี่ยวข้องกับงบการเงินและทิศทางธุรกิจ พร้อมยืนยันว่า BYD มีสถานะทางการเงินที่มั่นคง โดยอัตราส่วนเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ (NCR) ยังคงสูงกว่าเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์กำหนด แจงด้านเงินให้กู้ยืมแก่ บริษัท เอซ อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (ACE) บริษัทฯ มีทรัพย์สินเป็นหลักประกัน รถเมล์ไฟฟ้า 112 คัน มูลค่าคุ้มหนี้ ขณะที่มีภาระหนี้คงเหลือราว 580 ล้านบาท ซึ่งยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้

ในมุมของธุรกิจหลักทรัพย์ นายชัยพัชร์ นาคมณฑนาคุ้ม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) (BYD) กล่าวถึงแนวโน้มธุรกิจหลังรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศ โดยระบุว่า แม้ช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ มีผลกระทบจากเศรษฐกิจ แต่ธุรกิจหลักของบริษัทยังคงเติบโตอย่างมั่นคงสวนกระแสสภาพรวม โดยในครึ่งแรกของปีนี้มีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 30% เมื่อเทียบกับปีก่อน อีกทั้ง บริษัทฯ เดินหน้าพัฒนาบริการด้านการลงทุนแบบครบวงจร เพื่อตอบโจทย์กลุ่มนักลงทุนยุคใหม่ ได้แก่

• แอปพลิเคชัน Be BEYOND สำหรับนักลงทุนยุคใหม่
• การซื้อขาย TFEX บนแพลตฟอร์ม TradingView
• การพัฒนาโซลูชันด้านการลงทุนอื่นๆ เช่น BEYOND IFA และ My BEYOND สำหรับทีมงานและพนักงานของบริษัท

ด้าน นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด (TSB) กล่าวถึงเป้าหมายของ TSB ว่า บริษัทฯ ได้มุ่งเน้นประชาสัมพันธ์การเข้าถึงกลุ่มเยาวชน ส่งเสริมการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านบริการรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า พร้อมออกโปรโมชั่น “40 บาท ตลอดวัน” เพื่อกระตุ้นให้มีการใช้บริการเพิ่มขึ้น เตรียมพร้อมที่จะเพิ่มจุดจำหน่ายบัตร Hop Card ผ่านร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven กว่า 5,000 สาขาในเขตกรุงเทพฯ และจังหวัดที่มีพื้นที่ต่อเนื่องอีก 6 จังหวัด เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารในการเติมเงินและใช้งานระบบขนส่งสาธารณะ โดยมี Transit Smart Hub ศูนย์กลางการเดินทางอัจฉริยะเตรียมรองรับการขยายบริการจากกรุงเทพฯ สู่หัวเมืองสำคัญในอนาคต

อีกทั้ง TSB ยังเป็นผู้ให้บริการรายเดียวในประเทศที่สามารถจำหน่าย Carbon Credit ไปยังสวิสเซอร์แลนด์ได้ แม้แผนธุรกิจจะมีความเกี่ยวข้องกับนโยบายภาครัฐ และจากปัญหาเรื่องเส้นทางเดินรถที่ถูกทับซ้อน ทำให้รายได้ในบางช่วงยังไม่เป็นไปตามเป้า แต่ยังคงเดินหน้าแก้ไขปัญหาและยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance) เพื่อสังคมต่อไป

ทั้งสององค์กรยืนยันเป้าหมายการดำเนินงานระยะยาว โดย “BYD” ตั้งเป้าก้าวสู่ Top 10 บริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำของไทยภายใน 2 ปี ขณะที่ “TSB” ยังคงเดินหน้าสร้างสังคมคาร์บอนต่ำผ่านระบบขนส่งอัจฉริยะที่ยั่งยืน และคาดว่าจะพลิกฟื้นธุรกิจได้ภายใน 2 ปี เช่นกัน