
หากพูดถึงสินทรัพย์ปลอดภัยในภาวะตลาดผันผวน หลายคนอาจนึกถึงทองคำเป็นอันดับแรก แต่ในโลกของ “โลหะมีค่า” ยังมีอีกหลายโอกาสที่น่าจับตา โดยเฉพาะ “แร่เงิน” ที่ในบางช่วงให้ผลตอบแทนเหนือกว่าทองคำอย่างมีนัยสำคัญ ปี 2025 นี้ นักลงทุนมีทางเลือกหลากหลายผ่านกองทุนที่เปิดโอกาสให้เข้าถึงทั้งเหมืองทอง เหมืองเงิน และธุรกิจเกี่ยวข้องทั่วโลก🌍
✅(1) กองทุนรวม DAOL-SILVER
ลงทุนในหน่วยลงทุนหลักของ Global X Silver Miners ETF ที่เน้นการลงทุนแบบกระจุกตัวในกลุ่มธุรกิจเหมืองแร่เงินและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่การสำรวจและขุดเจาะ ไปจนถึงโรงถลุงและบริษัทซื้อมาขายไปโลหะเงิน (Streaming company) ซึ่งกองทุนนี้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2010
กองทุนนี้คัดเลือกบริษัทที่มีรายได้หลักจากการผลิตหรือจำหน่ายแร่เงิน จำนวน 20–40 บริษัท เน้นหุ้นที่มีมูลค่าตลาดตั้งแต่ 30–60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีสภาพคล่องเหมาะสม
ด้วยธรรมชาติของแร่เงินที่ 72% เป็น “ผลพลอยได้” จากการผลิตโลหะอื่น เช่น ทองคำ ทองแดง และสังกะสี ทำให้บริษัทเหมืองเหล่านี้มีรายได้จากหลากหลายแหล่ง เช่น Wheaton Precious Metals ที่มีรายได้จากทั้งทองคำและเงิน หรือ Fresnillo และ Pan American Silver ที่เป็นเจ้าของเหมืองเงินรายใหญ่ของโลก บริษัทเหล่านี้มักสร้างกำไรเติบโตได้แรงกว่าผลตอบแทนจากการถือครองทองคำเสียอีก
✅(2) กองทุนรวม SCBGOLD
ลงทุนในหน่วยลงทุนหลัก SPDR Gold Trust (GLD) ที่มุ่งสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับราคาทองคำแท่งจริง โดยมี BNY Mellon ทำหน้าที่ Trustee ดูแลการดำเนินงานรายวัน และ HSBC เป็น Custodian จัดเก็บทองคำแท่งจริงให้มูลค่าของทองคำตรงกับหน่วยลงทุน ปัจจุบันถือครองทองคำแท่งกว่า 1,018.87 ตัน มากกว่าทุนสำรองของประเทศไทยถึง 4 เท่า เหมาะกับผู้ที่ต้องการกระจายความเสี่ยงและลงทุนในทองคำโดยไม่ต้องถือทองจริง
✅(3) กองทุนรวม KT-PRECIOUS
ลงทุนในกองทุนหลัก Franklin Gold and Precious Metals Fund A SGD (FGPM) ซึ่งมีเป้าหมายสร้างผลตอบแทนให้เหนือกว่า FTSE Gold Mines Index ผ่านกลยุทธ์กระจายการลงทุนทั่วโลกในหุ้นเหมืองทองและโลหะมีค่า โดยไม่จำกัดขนาดหรือภูมิภาค ปัจจุบันถือครองหุ้นกว่า 143 บริษัท กระจายการลงทุนเด่นในออสเตรเลียและจีน และมีสัดส่วนถือครองหุ้นรายตัวไม่เกิน 5% ทำให้มีความเสี่ยงต่ำกว่ากองทุนที่ลงทุนแบบกระจุกตัว
📍เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว DAOL-SILVER เหมาะกับผู้ที่ต้องการโอกาสทำกำไรจากธุรกิจเหมืองแร่และโลหะเงินที่อาจเติบโตแรงกว่าโลหะมีค่าอื่น ส่วน SCBGOLD เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลตอบแทนใกล้เคียงทองคำแท่งจริงจากทรัสต์ที่ถือทองคำอยู่จริง ขณะที่ KT-PRECIOUS เหมาะกับผู้ที่ต้องการลงทุนในกลุ่มเหมืองทองและโลหะมีค่าทั่วโลกด้วยระดับความเสี่ยงที่สมดุลกว่า
📊ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 กองทุนหลักของ DAOL-SILVER ทำได้ 81.88% กองทุนหลักของ SCBGOLD ทำได้ 46.09% และกองทุนหลักของ KT-PRECIOUS ทำได้ถึง 125.83%
📤สนใจเปิดโอกาสการลงทุนในธีมโลหะมีค่าทั้งทองและเงิน ติดต่อ บล. บียอนด์ เพื่อรับคำแนะนำการลงทุนจากผู้เชี่ยวชาญ และเริ่มต้นสร้างพอร์ตที่แข็งแกร่งในสินทรัพย์ปลอดภัยยุคใหม่ได้แล้ววันนี้ https://lin.ee/INNrmFP